นางสาวสิรินภัส โพชนาธาร

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 เวลา 11:37 น. |

แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 เวลา 11:50 น. |

เขียนโดย Administrator |

ชื่อเรื่อง กลยุทธ์การบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียน
ระดับประถมศึกษา

ชื่อผู้วิจัย นางสาวสิรินภัส โพชนาธาร

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหาร เพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษา และ(2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์
การบริหารการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษา ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน เก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากกลุ่มตัวอย่าง 366 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยายและวิเคราะห์ลำดับของความต้องการจำเป็นด้วยเทคนิค PNIModified และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์โรงเรียนที่ประสบความสำเร็จด้านคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น จำนวน 4 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่มของผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า

1) สภาพปัจจุบันของการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมคุณภาพของนักเรียนระดับประถมศึกษา โดยภาพรวม การบริหารการเปลี่ยนแปลงด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ การสร้างความมุ่งมั่นทางคุณธรรม ส่วนคุณธรรมของนักเรียน โดยภาพรวมด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ความศรัทธาในศาสนา สภาพที่พึงประสงค์ โดยภาพรวมการบริหารการเปลี่ยนแปลง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ การเน้นภาวะผู้นำเพื่อการเปลี่ยนแปลงคุณธรรมของนักเรียน โดยภาพรวมด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ การเป็นแบบอย่างที่ดี ความมุ่งมั่น ศรัทธาในศาสนา และความซื่อสัตย์สุจริต ค่าดัชนี PNIModified ของความต้องการจำเป็น ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลง โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ย (PNIModified = 0.26) ด้านคุณธรรมของนักเรียน โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ย (PNIModified = 0.28) ความต้องการจำเป็นสูงสุดคือ ความพอเพียง มีค่าดัชนี (PNIModified = 0.51)

2) กลยุทธ์การบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษา มี 3 ชุด คือ

กลยุทธ์ชุดที่ 1 สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขนาดกลาง ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์การพัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้และการประเมินผลคุณธรรม 2) กลยุทธ์เชื่อมโยงเครือข่ายคุณธรรม 3) กลยุทธ์เสริมสร้างความมั่นคงทางคุณธรรม และ 4) กลยุทธ์เสริมสร้างสมรรถนะบุคลากรด้านคุณธรรม

กลยุทธ์ชุดที่ 2 สำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่และโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์การพัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้และการประเมินผลคุณธรรม 2) กลยุทธ์เชื่อมโยงเครือข่ายคุณธรรม

กลยุทธ์ชุดที่ 3 กลยุทธ์การบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนระดับประถมศึกษาโดยภาพรวม ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์เชื่อมโยงเครือข่ายคุณธรรม
2) กลยุทธ์เสริมสร้างความมั่นคงทางคุณธรรม 3) กลยุทธ์เสริมสร้างสมรรถนะบุคลากรด้านคุณธรรม และ 4) กลยุทธ์การพัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้และการประเมินผลคุณธรรม

ชื่อผลงาน รายงานการประเมินโครงการนำเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาด้วยภาคี 4 ฝ่าย
ของโรงเรียนอนุบาลพังงา

ผู้ประเมิน สิรินภัส โพชนาธาร

ปีประเมิน 2559

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการนำเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาด้วยภาคี 4 ฝ่าย ของโรงเรียนอนุบาลพังงา ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการเกี่ยวกับความต้องการ ความจำเป็น ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ และความชัดเจนของเป้าหมายของโครงการ การประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับความพร้อมของสถานศึกษา ความเหมาะสมของงบประมาณ และ
ความเหมาะสมของกิจกรรมของโครงการ การประเมินกระบวนการการดำเนินโครงการเกี่ยวกับกระบวนการวางแผน การดำเนินการ การนิเทศติดตามและประเมินผลของโครงการ การประเมินผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณธรรม 4 ประการ ปริมาณผลผลิตของพืช และสัตว์ที่ผลิตได้ของโครงการและประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อโครงการนำเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาด้วยภาคี 4 ฝ่าย ของโรงเรียนอนุบาลพังงา กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 931 คนประกอบด้วย (1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 - 6 จำนวน 442 คน (2) ผู้บริหารและครู จำนวน 64 คน (3) คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน และ (4) ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 410 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 7 ฉบับ และแบบบันทึก จำนวน 4 ฉบับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป SPSS for Windows ผลการประเมิน สรุปได้ดังนี้

ผลการประเมิน โดยภาพรวม พบว่า ตัวชี้วัด ประเด็นการประเมินทุกประเด็น และภาพรวมของโครงการผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมด คือ

1. ผลการประเมินบริบท พบว่า การดำเนินการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์
การประเมิน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ความชัดเจนของเป้าหมาย ความจำเป็น
ความต้องการ และความเหมาะสมของวัตถุประสงค์

2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า พบว่า การดำเนินการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ตัวชี้วัดที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือความเหมาะสมของกิจกรรม ลำดับรองลงมา คือ ความพร้อมของสถานศึกษา และค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ความเหมาะสมของงบประมาณ

3. ผลการประเมินกระบวนการ พบว่า การดำเนินการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ การวางแผน การดำเนินการ และการนิเทศติดตามและประเมินผล

4. ผลการประเมินผลผลิต พบว่า การดำเนินการได้ผลอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ตัวชี้วัดส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน ซึ่งผลการประเมินตัวชี้วัดย่อย สรุปได้ดังนี้

4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 ผ่านเกณฑ์
การประเมิน

4.2 คุณธรรม 4 ประการ พบว่า ได้ผลผลิตผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.3 ผลผลิตจากผักสวนครัว พบว่า ได้ผลผลิตผ่านเกณฑ์การประเมิน

และผลผลิตจากปลาดุก พบว่า ได้ผลผลิตผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.4 ความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
และผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.5 ความพึงพอใจของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานพบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน

4.6 ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

จากผลการประเมินโครงการพบว่า โครงการผ่านเกณฑ์การประเมินในทุกประเด็น และ
ทุกตัวชี้วัด โรงเรียนอนุบาลพังงา ควรดำเนินโครงการนี้ต่อไป และเพื่อให้การดำเนินโครงการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรนำผลการประเมินบางประเด็นและบางตัวชี้วัดไปปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

1. ประเด็นบริบทของโครงการ

จากผลการประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน และมีผลการประเมินอยู่ใน
ระดับมาก โดยมีผลการประเมินตัวชี้วัดความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด จึงควรกำหนดวัตถุประสงค์ที่เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด และเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน

2. ประเด็นปัจจัยนำเข้าของโครงการ

จากผลการประเมินพบว่า ในภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน และผลการประเมิน
อยู่ในระดับมากที่สุด ในระดับตัวชี้วัด พบว่า ตัวชี้วัดความเหมาะสมของงบประมาณ มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด จึงควรจัดให้มีการระดมทรัพยากรจากชุมชนให้มากที่สุด ไม่ว่าเป็นทุนแรงงาน ทุนทรัพย์ สิ่งของต่างๆ หรือความร่วมมือที่ไม่ใช่ตัวเงิน เช่น ความรู้ความสามารถของภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น

3. ประเด็นกระบวนการของโครงการ

จากผลการประเมินพบว่า ผลการประเมินกระบวนการ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด พบว่า ทุกตัวชี้วัดอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ การวางแผน การดำเนินการ และ
การนิเทศติดตามและประเมินผล จึงควรจัดการนิเทศติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ ศึกษาหารูปแบบการนิเทศให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมการทำงานขององค์กร

ข้อเสนอแนะในการประเมินหรือวิจัยครั้งต่อไป

1. ควรประเมินโครงการนี้ในทุก 2 - 3 ปี เพื่อให้ได้สารสนเทศที่สอดคล้องกับสภาพกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เป็นแนวทางแก่โครงการอื่นๆ ต่อไป มูลฉบับที่ องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมานำเสนอ

2. ควรประเมินเกี่ยวกับปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อโครงการ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมผลกระทบที่ตามมา

3. ควรศึกษาตัวชี้วัดอื่นๆ ที่มีอิทธิพลกับตัวชี้วัดที่มีอยู่ เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เมนูหลัก

ระบบ SMSS

เผยแพร่นวัตกรรม

เผยแพร่ผลงานวิชาการ

อนุบาล 14 จ. ภาคใต้

ศูนย์อาเซียนอนุบาลพังงา

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม

เข้าสู่ระบบ

เว็บไซต์โรงเรียนในสังกัด

ปฏิทิน

นางสาวสิรินภัส โพชนาธาร

ผู้อำนวยการโรงเรียน

รองผู้อำนวยการโรงเรียน

หัวหน้ากลุ่มงาน

แบบสำรวจความคิดเห็น

Code เว็บไซต์โรงเรียน

Who's Online

Link ทางการศึกษา